10 หุ่นยนต์ดูดฝุ่น 2022 แรงดูดทรงพลัง เก็บกวาดได้ทุกซอกมุม
อยากได้ตัวช่วยดี ๆ ในการทำความสะอาดพื้นบ้าน ต้องนี่เลย ! หุ่นยนต์ดูดฝุ่น เจ้าเครื่องตัวจิ๋วแต่พลังแจ๋ว ช่วยดูดฝุ่น ทำให้บ้านสะอาดทุกซอกทุกมุม
พื้นบ้านสะอาดไร้ฝุ่น เป็นสิ่งที่ทุกคนอยากให้เป็น แต่การทำความสะอาดกลับเป็นเรื่องที่เหน็ดเหนื่อยเมื่อยล้าเพราะต้องใช้ไม้กวาดเดินกวาดฝุ่นหรือสิ่งสกปรกที่อยู่บนพื้น อีกทั้งยังต้องก้มลงกวาดหรือถูพื้นใต้โต๊ะหรือตู้ต่าง ๆ รวมถึงมุมห้องหรือขอบที่ไม้กวาดเข้าไม่ถึงอีก แล้วจะทำอย่างไรดีที่จะช่วยแบ่งเบาภาระดังกล่าวได้มากยิ่งขึ้น ซึ่งหนึ่งในตัวช่วยที่กำลังได้รับความนิยมและถูกพูดถึงอย่างมากก็คือ หุ่นยนต์ดูดฝุ่น ซึ่งจะมาช่วยลดขั้นตอนในการทำความสะอาดและเพิ่มความสะดวกสบายให้กับผู้คนในยุคสมัยนี้ ปัจจุบันในปี 2022 มีผู้สนใจสั่งซื้อหุ่นยนต์ดูดฝุ่นมากขึ้นเรื่อย ๆ ทำนองเดียวกับมีบริษัทผู้ผลิตที่มีการออกแบบและจำหน่ายหุ่นยนต์ดูดฝุ่นออกมาอย่างหลากหลาย เพื่อเป็นทางเลือกให้แก่ผู้ใช้งาน สำหรับใครที่กำลังสนใจแต่ยังลังเลว่าหุ่นยนต์ดูดฝุ่นนั้นคืออะไร มีประโยชน์อย่างไร แตกต่างกับเครื่องดูดฝุ่นปกติตรงไหน และควรเลือกซื้อยี่ห้ออะไรดี เรามีคำตอบมาให้แล้วค่ะ
หุ่นยนต์ดูดฝุ่นคืออะไร ?
หุ่นยนต์ดูดฝุ่น (Robot Vacuum Cleaner) เครื่องใช้ไฟฟ้าที่ขับเคลื่อนการทำงานด้วยมอเตอร์ พร้อมระบบทำความสะอาดคอยเก็บกวาดสิ่งสกปรกบนพื้นบ้านให้อัตโนมัติ โดยมีเซ็นเซอร์ตรวจจับสิ่งกีดขวาง เพื่อป้องกันไม่ให้ตัวเครื่องวิ่งชนหรือกระแทกกับของใช้ในบ้าน เช่น เฟอร์นิเจอร์ต่าง ๆ รวมทั้งบริเวณที่เป็นพื้นต่างระดับ ซึ่งบางรุ่นก็มีระบบถูพื้นให้ในตัว ในขณะที่บางรุ่นมีสเตชั่นหรือถังไว้สำหรับเก็บสิ่งสกปรก เพื่อให้ผู้ใช้งานไม่ต้องนำฝุ่นไปเททิ้งบ่อย ๆ ด้วย
ข้อดี
ใช้งานง่าย : เมื่อตั้งโปรแกรมเครื่องสำหรับพื้นที่ที่กำหนดและตั้งเวลาไว้สำหรับเวลาเริ่มต้นที่กำหนดไว้แล้ว เจ้าหุ่นยนต์ดูดฝุ่นก็จะทำงานเองอัตโนมัติ นอกจากนี้หลายรุ่นได้รับการปรับปรุงให้สามารถควบคุมทิศทางได้ เพื่อป้องกันความผิดพลาดที่อาจจะเกิดขึ้นกับตัวเครื่อง ไม่ว่าจะเป็นการชนเครื่องเรือนต่าง ๆ หรือตกจากบันได
ฟังก์ชันการทำงานที่มีประสิทธิภาพ : บางรุ่นมีระบบจดจำแผนผังพื้นที่ในห้อง หรือกลับไปแท่นชาร์จได้เองเมื่อแบตเตอรี่ใกล้หมด นอกจากนี้ในหุ่นยนต์ดูดฝุ่นระดับไฮเอนด์บางรุ่นยังมีเซ็นเซอร์ขั้นสูง ที่สามารถเปลี่ยนระหว่างพื้นเปล่าและพื้นที่ปูพรมได้โดยไม่ต้องเปลี่ยนการตั้งค่าด้วยตนเองอีกด้วย ทำให้การทำความสะอาดพื้นผิวห้องหรือบ้านเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น
ช่วยประหยัดเวลา : หุ่นยนต์ดูดฝุ่นบางรุ่นสามารถสั่งงานด้วยสัญญาณ Wi-Fi และควบคุมผ่านทางแอปพลิเคชันในโทรศัพท์มือถือ ทำให้ไม่จำเป็นต้องอยู่ด้วยในขณะที่เครื่องทำงาน
ทำงานได้บนพื้นผิวที่แตกต่างกัน : โดยทั่วไปหุ่นยนต์ดูดฝุ่นจะออกแบบมาให้สามารถดูดฝุ่น ทำความสะอาดพื้นผิวได้หลากหลายประเภท ตั้งแต่พรม พื้นไม้เนื้อแข็ง เสื่อน้ำมัน หรือพื้นคอนกรีตก็ได้
ตรวจจับทุกระดับของสิ่งสกปรก : หุ่นยนต์ดูดฝุ่นเหล่านี้จะมีแรงดูดที่ทรงพลัง สามารถจัดการกับสิ่งสกปรกทุกประเภทได้ ตั้งแต่ฝุ่นผงเล็ก ๆ ที่ปลิวตกลงมาจนถึงเศษสิ่งสกปรกที่ฝังลึกในพรม
สามารถกำหนดขอบเขตการทำงานได้ : หุ่นยนต์ดูดฝุ่นบางรุ่นจะมีระบบตั้งค่าผนังเสมือนเพื่อกำหนดพื้นที่ในการทำงาน เพื่อจำกัดขอบเขตและป้องกันไม่ให้เครื่องข้ามประตูและช่องเปิดอื่น ๆ รวมถึงไม่ทำให้สัตว์เลี้ยงของคุณตกใจด้วย
ขนาดเล็ก กะทัดรัด และง่ายต่อการจัดเก็บ : หุ่นยนต์ดูดฝุ่นมีขนาดเล็กกว่าเครื่องดูดฝุ่นแบบเดิมมาก สามารถจัดเก็บได้อย่างง่ายดายในทุกพื้นที่ เหมาะสำหรับบ้านที่มีพื้นที่จัดเก็บจำกัด อีกทั้งเคลื่อนย้ายจากที่หนึ่งไปยังอีกที่หนึ่งได้อย่างง่ายดาย
ทำให้การทำความสะอาดบ้านเร็วขึ้น : เนื่องจากหุ่นยนต์ดูดฝุ่นทำงานแบบพอเพียงและทำงานด้วยตนเอง ทำให้มีเวลามากขึ้นในการทำความสะอาดส่วนอื่น ๆ ของบ้าน เมื่อทำงานควบคู่กันจะช่วยลดเวลาที่ใช้ในการทำความสะอาดบ้านได้มากขึ้น และผลลัพธ์ของการทำความสะอาดที่มีประสิทธิภาพมากขึ้นตามไปด้วย
เหมาะสำหรับผู้พิการ ผู้สูงอายุ และผู้ที่มีปัญหาด้านการเคลื่อนไหว : เนื่องจากความสะดวกในการใช้งานและการทำงานแบบแฮนด์ฟรี
ประหยัดและคุ้มค่า : ปัจจุบันราคาของหุ่นยนต์ดูดฝุ่นที่มีขายในท้องตลาดเริ่มต้นตั้งแต่หลักพันไปจนถึงหลักหมื่น ซึ่งสามารถเลือกซื้อเลือกใช้ให้เหมาะสมกับงบประมาณและความต้องการของผู้ใช้ได้เลย
ข้อเสีย
อายุการใช้งานแบตเตอรี่สั้น : หุ่นยนต์ดูดฝุ่นโดยทั่วไปจะใช้เวลาในการชาร์จแบตเตอรี่ประมาณ 2 ชั่วโมง และทำงานต่อเนื่องได้ตั้งแต่ 1-2 ชั่วโมง โดยเฉลี่ย ทำให้ไม่อาจทำความสะอาดพื้นให้เสร็จในคราวเดียวได้ในกรณีบ้านที่มีพื้นที่ค่อนข้างกว้าง
ทำความสะอาดได้ไม่เต็มประสิทธิภาพ : ด้วยลักษณะรูปทรงของหุ่นยนต์ดูดฝุ่นที่ส่วนใหญ่มักจะออกแบบมาให้เป็นทรงกลม ทำให้บางครั้งไม่สามารถเข้าไปทำความสะอาดตามซอกมุมของบ้าน ซึ่งเป็นบริเวณที่มีฝุ่นและสิ่งสกปรกสะสมอยู่มากที่สุด
เสียงดังรบกวน : การทำงานของหุ่นยนต์ดูดฝุ่นเป็นแบบใช้มอเตอร์ ทำให้มีเสียงดังในระหว่างการทำงาน แม้จะไม่ดังเท่ากับเครื่องดูดฝุ่นทั่วไป แต่ก็อาจจะสร้างความรำคาญได้
ต้องล้างถังเก็บฝุ่นบ่อย ๆ : ด้วยขนาดที่เล็ก ทำให้ต้องจัดการกับถังเก็บฝุ่นบ่อยขึ้นกว่าเดิม
ความแตกต่างระหว่าง
หุ่นยนต์ดูดฝุ่นกับเครื่องดูดฝุ่น
แม้จะเป็นเครื่องใช้ไฟฟ้าที่ออกแบบให้ทำความสะอาดพื้นผิวเหมือนกัน แต่หุ่นยนต์ดูดฝุ่นและเครื่องดูดฝุ่นก็มีความแตกต่างกันในด้านต่าง ๆ ดังนี้
– การทำงานด้วยตัวเอง : แน่นอนว่าหุ่นยนต์ดูดฝุ่นกินขาดในแง่นี้ เพียงแค่ตั้งโปรแกรมให้มีระบบจดจำทิศทางและการข้ามสิ่งกีดขวาง เครื่องก็สามารถทำงานได้โดยอัตโนมัติ แต่เครื่องดูดฝุ่นแบบเดิมยังต้องใช้การควบคุมโดยผู้ใช้อยู่ดี
– ความละเอียดและประสิทธิภาพในการทำงาน : ต้องยอมรับว่าหุ่นยนต์ดูดฝุ่นมีข้อเสียเปรียบตรงหัวข้อนี้ เพราะเครื่องดูดฝุ่นแบบเดิมจะทำความสะอาดได้ดีกว่า และมีช่วงการทำงานที่กว้างกว่า นอกจากนี้ด้วยลักษณะของเครื่องดูดฝุ่นแบบเดิม โอกาสในการดูดถุงเท้าและสิ่งของอื่น ๆ โดยไม่ได้ตั้งใจก็ลดน้อยลง เนื่องจากมีการควบคุมจากตัวผู้ใช้โดยตรง
– การเข้าถึงในซอกมุมต่าง ๆ : เครื่องดูดฝุ่นแบบเดิมจะมีหัวดูดให้เลือกหลายขนาด ทำให้สามารถซอกซอนเข้าไปดูดฝุ่นตามมุมห้อง ขอบประตู-หน้าต่าง หรือบางพื้นที่ที่หุ่นยนต์ดูดฝุ่นไปได้ไม่ถึง นอกจากนี้ยังมีเครื่องดูดฝุ่นไร้สายขนาดเล็กที่สามารถนำไปดูดฝุ่นหรือเศษผงบนโซฟาหรือในรถยนต์ได้ด้วย
– ความสะดวกสบายในการทำความสะอาด : หุ่นยนต์ดูดฝุ่นบางรุ่นที่มีขายในท้องตลาดมาพร้อมกับฟังก์ชันดูดฝุ่นและถูพื้นไปในคราวเดียวกัน ช่วยอำนวยความสะดวกและทำให้ประหยัดเวลาในการทำงานมากขึ้นด้วย
วิธีการเลือกซื้อหุ่นยนต์ดูดฝุ่น
สำหรับใครที่อยากได้หุ่นยนต์ดูดฝุ่นมาไว้ใช้งานในบ้านสักเครื่อง เรามีคำแนะนำและวิธีการเลือกซื้อมาฝากกันค่ะ โดยพิจารณาจาก
– สำรวจบ้านของตัวเอง ดูว่าพื้นที่ส่วนใหญ่ในบ้านเป็นพื้นผิวแบบไหน เป็นพื้นผิวเนื้อแข็งหรือปูพรมเป็นส่วนมาก รวมถึงมีสัตว์เลี้ยงในบ้านหรือไม่
– ขนาดของพื้นที่ หุ่นยนต์ดูดฝุ่นแต่ละยี่ห้อและรุ่น ให้การดูแลและครอบคลุมพื้นที่ต่างกัน ซึ่งขึ้นอยู่กับความจุของแบตเตอรี่ ยิ่งความจุเยอะเท่าไรก็ยิ่งสามารถดูแลพื้นที่ได้กว้างขึ้นเท่านั้น
– ฟังก์ชันการทำงาน ปกติหุ่นยนต์ดูดฝุ่นจะมีฟังก์ชันพื้นฐาน เช่น ตั้งเวลา ตั้งโปรแกรมการทำงานได้ วิ่งกลับแท่นชาร์จเองได้เมื่อแบตเตอรี่ใกล้หมด สั่งงานผ่านแอปพลิเคชันหรือควบคุมการทำงานผ่านสัญญาณ Wi Fi รวมถึงสัญญาณแจ้งเตือนเมื่อถังเก็บฝุ่นใกล้เต็ม และบางรุ่นอาจมีฟังก์ชันเสริมพิเศษอื่น ๆ เช่น มีเซ็นเซอร์ป้องกันการตกจากบันไดหรือที่สูง ถูพื้นได้ ส่งข้อมูลการทำความสะอาดแบบเรียลไทม์ไปยังโทรศัพท์มือถือ และอาจจะสร้างกำแพงเสมือนจริงขึ้นมาเพื่อไม่ให้หุ่นยนต์ดูดฝุ่นเข้าไป เป็นต้น
– ราคาและบริการหลังการขายต่าง ๆ หุ่นยนต์ดูดฝุ่นที่มีขายในท้องตลาดส่วนใหญ่ในปัจจุบันจะเริ่มต้นที่หลักพันขึ้นไปจนถึงหลักหมื่นก็มี ขึ้นอยู่กับฟังก์ชันการใช้งาน ดีไซน์ และการรับประกันต่าง ๆ ของแบรนด์นั้น ๆ นอกจากนี้ยังอาจจะมีค่าใช้จ่ายเพิ่มเติม เช่น ค่าแผ่นกรอง และค่าอะไหล่ต่าง ๆ
แนะนำหุ่นยนต์ดูดฝุ่น ยี่ห้อไหนดี ปี 2022
1. หุ่นยนต์ดูดฝุ่น Neatsvor รุ่น V390
ภาพจาก powerbuy.co.th
หุ่นยนต์ดูดฝุ่น ผสานการทำงานของระบบทำความสะอาดที่ทรงพลัง เพลิดเพลินกับการควบคุมอย่างง่ายดาย และปรับการทำความสะอาดให้เหมาะสมที่สุดสำหรับพื้นที่ห้องที่มีขนาดประมาณ 30-60 ตร.ม. มาพร้อมโหมดการทำความสะอาดมากมายให้เลือก ทั้งอัตโนมัติ, กำหนดเวลา, ห้องเดี่ยว, จุดคงที่, ถู, ขอบ และการทำความสะอาดตามเส้นทางที่กำหนด
ขนาดของถังเก็บฝุ่น : 0.6 ลิตร
ขนาดแบตเตอรี่ : 2,500 mAh
ทำงานได้ถึง 90 นาทีต่อการชาร์จเต็ม
กำลังไฟฟ้า : 21-30 วัตต์
ขนาด : 32x32x7.8 ซม.
ราคาประมาณ : 7,900 บาท
2. หุ่นยนต์ดูดฝุ่น Mister Robot Hybrid
ภาพจาก homepro.co.th
สะดวกสบายด้วยนวัตกรรมใหม่ที่รวมหุ่นยนต์ดูดฝุ่นและหุ่นยนต์ถูพื้นมาไว้ในเครื่องเดียว ด้วยเทคโนโลยีสุดล้ำ เพียงแค่ถอดกล่องเก็บฝุ่นออกแล้วใส่แท็งก์น้ำเข้าไปแทนที่ เครื่องก็จะปรับโหมดโดยอัตโนมัติ มาพร้อมเทคโนโลยี Edge Detective Sensor ป้องกันการตกจากที่สูง และเทคโนโลยี Navigator Sensor หลบหลีกสิ่งกีดขวาง เดินผ่านพื้นที่ต่างระดับได้ถึง 15 มม. นอกจากนี้ยังสามารถสั่งงานผ่านสัญญาณ Wi-Fi ควบคุมการทำงานผ่านแอปฯ บนโทรศัพท์มือถือ ให้ทำความสะอาดทุกพื้นที่ภายในบ้านได้อย่างสะอาดหมดจด สะดวกสบายกว่าที่เคย
ขนาดของถังเก็บฝุ่น : 0.4 ลิตร
ขนาดแบตเตอรี่ : 2,600 mAh
ทำงานได้ถึง 180 นาทีต่อการชาร์จเต็ม
ขนาด : 31x31x7 ซม.
น้ำหนัก : 2.6 กิโลกรัม
ราคาประมาณ : 9,900 บาท
3. หุ่นยนต์ดูดฝุ่น Philips รุ่น FC8792/01
ภาพจาก philips.co.th
หุ่นยนต์ดูดฝุ่นดีไซน์บางเป็นพิเศษ แต่อัดแน่นไปด้วยประสิทธิภาพเต็มเปี่ยม พร้อมระบบทำความสะอาด 2 ขั้นตอน เพื่อดักจับฝุ่นและสิ่งสกปรก โดยแปรงด้านข้างจะกวาดฝุ่นทั้งหมด ในขณะที่พลังดูดแรงสูงจะดูดฝุ่นทั้งหมดเข้าไป มีฟังก์ชันการตั้งกำหนดการ 24 ชั่วโมง และโหมดการทำความสะอาด 4 โหมด สำหรับบริเวณที่แตกต่างกัน รวมถึงฟังก์ชัน Philips SmartPro Easy ซึ่งเป็นระบบตรวจจับสุดทันสมัย จากการทำงานร่วมกันระหว่างชิปอัจฉริยะ เซ็นเซอร์ 23 ตัว และ Accelerometer ปรับเปลี่ยนการทำความสะอาดให้เข้ากับทุกสภาพแวดล้อม มาในดีไซน์บางพิเศษและกะทัดรัด ทำให้สามารถทำความสะอาดพื้นที่ข้างใต้ที่มีระดับต่ำได้
ขนาดของถังเก็บฝุ่น : 0.4 ลิตร
ทำงานได้ถึง 105 นาทีต่อการชาร์จเต็ม
ขนาด : 30x30x5.85 ซม.
น้ำหนัก : 2 กิโลกรัม
ราคาประมาณ : 12,900 บาท
4. หุ่นยนต์ดูดฝุ่น Samsung รุ่น VR05R5050WK
ภาพจาก samsung.com
หุ่นยนต์ดูดฝุ่น Robot พร้อมระบบทำความสะอาดแบบ 2 in 1 ช่วยประหยัดแรงและเวลาได้ด้วยการดูดฝุ่นและถูพื้นไปพร้อม ๆ กัน โดยเครื่องจะดูดฝุ่นและสิ่งสกปรก และถังน้ำจะสามารถตรวจจับได้ว่าติดตั้งแผ่นม็อปถูพื้นหรือยัง พร้อมทั้งสามารถสลับไปใช้การถูพื้นและปรับปริมาณน้ำได้โดยอัตโนมัติ ควบคุมผ่านสัญญาณ Wi-Fi สั่งเปิด-ปิดเครื่อง ตั้งตารางการทำความสะอาดหลาย ๆ เวลา ปรับแรงดูด และควบคุมความเร็วของการถูพื้นและการไหลของน้ำได้ด้วยสัมผัสเดียว สะดวกในการล้างทำความสะอาดด้วยตัวถังเก็บฝุ่น EZ Empty Dustbin ที่ถอดออกมาเททิ้งและทำความสะอาดได้ง่าย นอกจากนี้ยังเลือกได้ว่าจะทำความสะอาดแบบไหน เพราะมีโหมดทำความสะอาดหลายแบบ มาในดีไซน์บางเฉียบ เคลื่อนที่เข้าไปใต้เฟอร์นิเจอร์ เตียง และพื้นที่ต่ำ ๆ ได้อย่างง่ายดาย ทำความสะอาดได้ทุกซอกทุกมุมเต็มพื้นที่
ขนาดของถังเก็บฝุ่น : 200 มม.
ขนาดแบตเตอรี่ : 3,400 mAh
ทำงานได้ถึง 150 นาทีต่อการชาร์จเต็ม ในความกว้างพื้นที่ 160 มม.
กำลังไฟฟ้า : 55 วัตต์
ขนาด : 34x34x8.5 ซม.
น้ำหนัก : 3 กิโลกรัม
ราคาประมาณ : 12,900 บาท
5. หุ่นยนต์ดูดฝุ่น Xiaomi รุ่น 1C
ภาพจาก powerbuy.co.th
หุ่นยนต์ดูดฝุ่นอัจฉริยะพร้อมม็อปถูพื้นในตัว จากแบรนด์ Xiaomi มีฟังก์ชันทั้งดูดฝุ่นและถูพื้นได้ พร้อมระบบ Mapping จดจำทิศทาง เมื่อทำงานเสร็จกลับเข้าที่ชาร์จเอง สามารถตั้งเวลาทำงานได้ ไม่ว่าจะให้ดูดฝุ่นทุกวันหรือเลือกเฉพาะวันและเวลาที่ต้องการ ปรับแรงดูดได้สูงสุดที่ 2,500 Pa ดีไซน์เล็กกะทัดรัดด้วยความสูงเพียง 8.5 ซม. ลอดใต้เตียง โต๊ะ ตู้ได้ นอกจากนี้ยังมีเซ็นเซอร์กันตก ทำให้สามารถขึ้นหรือปีนที่ความสูงระดับ 2 ซม. ได้ และสามารถควบคุมการทำงานหรือสั่งงานผ่านทางสัญญาณ Wi-Fi ได้ด้วย
ขนาดของถังเก็บฝุ่น : 600 มม.
ขนาดแบตเตอรี่ : 2,400 mAh
ทำงานได้ถึง 120 ตร.ม. ต่อการชาร์จเต็ม
กำลังไฟฟ้า : 250 วัตต์
ขนาด : 35.3x35x8.15 ซม.
น้ำหนัก : 3.6 กิโลกรัม
ราคาประมาณ : 15,900 บาท
6. หุ่นยนต์ดูดฝุ่น Ecovacs Deebot รุ่น U2 PRO
ภาพจาก ecovacs.com
ถูกใจบ้านที่มีสัตว์เลี้ยง ด้วยหุ่นยนต์ดูดฝุ่นจากแบรนด์ Ecovacs กับนวัตกรรมชุดดูแลสัตว์เลี้ยง เช่น ถังขยะขนาดใหญ่ช่วยเก็บสิ่งสกปรกในปริมาณมากได้ โดยเฉพาะในช่วงฤดูผลัดขน และแปรงป้องกันการมีสิ่งสกปรกเข้าไปพันกับขนแปรง ทำให้ทำความสะอาดได้อย่างราบรื่น อีกทั้งยังมีโหมด Max+ เพิ่มพลังดูดเพื่อรองรับขนสัตว์เลี้ยงที่เป็นปัญหาในบ้าน พร้อมด้วยเทคโนโลยีถูพื้น Ozmo ที่สามารถสลับฟังก์ชันการดูดฝุ่นและผสมการถูพื้นที่อัปเกรดใหม่ สำหรับการทำความสะอาดที่ครอบคลุม นอกจากนี้ยังมีระบบการเชื่อมต่อผ่านแอปฯ ช่วยให้ควบคุมและกำหนดเวลาการทำความสะอาดหรือตรวจสอบสถานะการทำความสะอาดปัจจุบันได้อีกด้วย สามารถเก็บกวาดพื้นที่ได้กว้างถึง 200 ตร.ม.
ขนาดของถังเก็บฝุ่น : 0.4 ลิตร
ขนาดแบตเตอรี่ : 3,200 mAh
ทำงานได้ถึง 120 นาทีต่อการชาร์จเต็ม
กำลังไฟฟ้า : 26 วัตต์
ขนาด : 33.9×33.7×7.9 ซม.
น้ำหนัก : 5 กิโลกรัม
ราคาประมาณ : 16,500 บาท
7. หุ่นยนต์ดูดฝุ่น Electrolux รุ่น Purei9.2
ภาพจาก electrolux.co.th
เครื่องดูดฝุ่นหุ่นยนต์ทรงสามเหลี่ยม จากแบรนด์ Electrolux ที่มาพร้อมกับการมองเห็นแบบ 3 มิติ ด้วยระบบการมองเห็นด้วยเลเซอร์และกล้อง ที่จะทำผังห้องและสแกนตำแหน่งเฟอร์นิเจอร์และวัตถุบนพื้น เพื่อการทำความสะอาดที่เหมาะสม ไม่ต้องเคลื่อนย้ายของบนพื้นก่อนทำความสะอาด และหลบหลีกได้อย่างแม่นยำโดยไม่สะดุด โดดเด่นด้วยรูปทรง Trinity Shape สามารถเข้าถึงจุดแคบ ๆ แทรกเข้ามุมต่าง ๆ ทำความสะอาดได้จนถึงมุมขอบตามผนังได้อย่างทั่วถึง และด้วยระบบชาร์จไฟอัจฉริยะ เมื่อแบตเตอรี่ใกล้หมด เครื่องจะกลับไปยังแท่นชาร์จโดยอัตโนมัติ และเมื่อชาร์จแล้วเครื่องจะกลับมาทำความสะอาดต่อในตำแหน่งที่ค้างไว้ สะดวกสบายด้วยการสั่งงานโดยเชื่อมต่อ Wi-Fi ควบคุมหุ่นยนต์ได้จากทุกที่ผ่านแอปฯ บนโทรศัพท์มือถือ ปรับแต่งตารางการทำความสะอาด ตรวจสอบสถานะ หรือควบคุมเครื่องดูดฝุ่นจากระยะไกลได้ตลอดเวลา
ขนาดของถังเก็บฝุ่น : 0.4 ลิตร
ทำงานได้ถึง 70 นาทีต่อการชาร์จเต็ม
กำลังไฟฟ้า : 22 วัตต์
ขนาด : 32.5x28x8.5 ซม.
น้ำหนัก : 2.5 กิโลกรัม
ราคาประมาณ : 20,900 บาท
8. หุ่นยนต์ดูดฝุ่น Autobot รุ่น Lazer Mark 4
ภาพจาก autobotvacuum.com
หุ่นยนต์ดูดฝุ่นดีไซน์สวย แรงดูดทรงพลังถึง 8,000 Pa ดูดได้สะอาดหมดจดเทียบเท่ากับหุ่นยนต์ดูดฝุ่น 4 เครื่อง พร้อมฟังก์ชัน Map and Virtual Wall Memorizing ซึ่งเป็นระบบจดจำและบันทึกแผนที่บ้าน รวมถึงกำแพงเสมือน สามารถจดจำพื้นที่ได้มากถึง 5 แบบ และระบบนำทาง Laser Slam 2.0 หมดกังวลเรื่องสิ่งกีดขวางและเครื่องทำความสะอาดได้ไม่ทั่วถึง อีกทั้งยังมีระบบควบคุมการจ่ายน้ำและระบบตัดน้ำเมื่อเครื่องเข้าแท่นชาร์จ ป้องกันไม่ให้พื้นเปียก ควบคุมการทำงานผ่านสัญญาณ Wi-Fi สั่งการทำงานได้ทุกที่ด้วยโทรศัพท์มือถือ
ขนาดแบตเตอรี่ : 6,400 mAh
ทำงานได้ถึง 100 นาทีต่อการชาร์จเต็ม
ขนาด : 34x34x9 ซม.
น้ำหนัก : 3.6 กิโลกรัม
ราคาประมาณ : 29,000 บาท
9. หุ่นยนต์ดูดฝุ่น Ecovacs Deebot รุ่น Ozmo T8 AIVI
ภาพจาก ecovacs.com
หุ่นยนต์ดูดฝุ่นที่มาพร้อมด้วยเทคโนโลยีระดับปฏิวัติวงการ AIVI™ ที่จะยกระดับการโต้ตอบและทำความสะอาดล้ำลึกกว่าที่เคย สามารถจดจำอุปสรรคหลากหลายได้โดยอัตโนมัติ หลีกเลี่ยงวัตถุต่าง ๆ และแนะนำการทำความสะอาดแบบพิเศษโดยอัตโนมัติ พร้อมระบบ TrueMapping สร้างแผนที่บ้านด้วยความแม่นยำเพิ่มขึ้นเป็น 4 เท่า ทำให้การทำความสะอาดมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น ช่วยประหยัดเวลาเพราะสามารถดูดฝุ่นและถูพื้นไปในเวลาเดียวกันได้ มี Video Streaming ขณะที่หุ่นยนต์ดูดฝุ่นทำความสะอาด สามารถตรวจเช็กการทำความสะอาดได้แบบเรียลไทม์ผ่านแอปฯ Ecovacs Home รองรับการสั่งงานผ่านสัญญาณ Wi-Fi และระบบบ้านอัจฉริยะ สั่งงานด้วยเสียงในการควบคุมแบบแฮนด์ฟรี ด้วย Google Assistant หรือ Alexa ได้
ขนาดของถังเก็บฝุ่น : 0.42 ลิตร
ขนาดแบตเตอรี่ : 5,200 mAh
ทำงานได้ถึง 180 นาทีต่อการชาร์จเต็ม
กำลังไฟฟ้า : 40 วัตต์
ขนาด : 40×41.8×17 ซม.
น้ำหนัก : 4.1 กิโลกรัม
ราคาประมาณ : 32,500 บาท
10. หุ่นยนต์ดูดฝุ่น iRobot รุ่น Roomba e5
ภาพจาก irobotthailand.com
หุ่นยนต์ดูดฝุ่น iRobot รุ่น Roomba e5 กับระบบทำความสะอาด 3 ขั้นตอนที่เหนือชั้น ช่วยจัดการให้บ้านสะอาดเรียบในทุกวัน ทำความสะอาดทั้งสิ่งที่มองเห็นได้อย่างสิ่งสกปรก ขนสัตว์ เส้นผม ตลอดจนสิ่งที่มองไม่เห็นอย่างฝุ่นขนาดเล็กและสารก่อภูมิแพ้ ด้วยฟิลเตอร์กรองฝุ่นประสิทธิภาพสูงที่จับสารก่อภูมิแพ้จากแมวและสุนัขได้ถึง 99% เหมาะสำหรับบ้านที่มีสัตว์เลี้ยง มาพร้อมชุดแปรงยางคู่ทำความสะอาดหลากพื้นผิว แรงดูดทรงพลัง และฟิลเตอร์กรองฝุ่นประสิทธิภาพสูง มีระบบนำทางอัจฉริยะที่ช่วยให้หุ่นยนต์ดูดฝุ่นทำงานทั่วพื้นที่ เลาะขอบกำแพง มุมห้อง รอบเฟอร์นิเจอร์ พร้อมทำงานซ้ำในบริเวณที่มีฝุ่นมากโดยอัตโนมัติด้วย นอกจากนี้ยังมีเซ็นเซอร์ตรวจจับฝุ่นละออง Dirt Detect™️ และถังเก็บฝุ่นใหม่ที่ออกแบบให้ล้างน้ำได้เพื่อการใช้งานที่สะดวกยิ่งขึ้น ใช้งานง่ายด้วยระบบควบคุมการทำงาน และตั้งเวลาล่วงหน้าผ่านแอปพลิเคชัน iRobot Home
ขนาดของถังเก็บฝุ่น : 0.7 ลิตร
ขนาดแบตเตอรี่ : 1,800 mAh
ทำงานได้ถึง 90 นาทีต่อการชาร์จเต็ม
กำลังไฟฟ้า : 33 วัตต์
ขนาด : 33.8×33.8×9.1 ซม.
น้ำหนัก : 3.3 กิโลกรัม
ราคาประมาณ : 33,900 บาท
ใครที่กำลังมองหาหุ่นยนต์ดูดฝุ่นมาไว้ช่วยผ่อนแรงในการทำความสะอาดบ้าน คงจะได้แนวคิดในการตัดสินใจเลือกซื้อกันแล้ว รับรองว่าได้ผู้ช่วยทำความสะอาดที่ถูกใจ ตอบโจทย์การทำงาน และเป็นมิตรกับกระเป๋าสตางค์แน่นอนค่ะ
ขอบคุณข้อมูลจาก homeownerfaqs.com, kent.co.in, nextpit.com, tomsguide.com, powerbuy.co.th (1), (2), homepro.co.th, philips.co.th, samsung.com, ecovacs.com (1), (2), electrolux.co.th, autobotvacuum.com และ irobotthailand.com